การฟื้นฟูร่างกาย สำหรับใครหลายคนที่กำลังเจอกับตารางงานที่ยุ่งเหยิงในแต่ละวัน อาจก่อให้เกิดความเครียดจนส่งผลต่อการนอนหลับ หรือในช่วงวัยเรียนของเด็กๆหลายคน ที่เมื่อถึงช่วงเวลาใกล้สอบ หรือแม้แต่การกินเยอะเกินไป ก็เป็นเหตุให้เราไม่สามารถนอนหลับได้อย่างสบายเท่าที่ควร
สาเหตุทั้งหมดนั้นมาจากการทำงานหนักของร่างกายในระบบย่อยอาหาร หรือการออกกำลังกายก่อนถึงเวลานอนพักผ่อนเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็จะทำให้ร่างกายมีการตื่นตัวแทนที่จะล้าและหลับสนิทอย่างที่ควรจะเป็น นอกจากนี้การเสพข้อมูลข่าวสารต่างๆ ก่อนนอน ยังส่งผลต่อสมองทำให้มีการทำงานผิดปกติอีกด้วย
สำหรับคนในวัยทำงานหลายท่าน การติดต่อสื่อสารการรับส่งข้อความต่างๆ ผ่านทางโทรศัพท์ อีเมล์ ไลน์ เฟสบุ๊ก ฯลฯ ในช่วงเวลาหลังเลิกงานในปัจจุบันถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติไปแล้ว บางท่านอาจจะตื่นมากลางดึกเพื่อคุยงานกับลูกค้า หรือเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า หรือแม้แต่ลูกน้อง ทำให้ร่างกายพักผ่อนได้ไม่เต็มที่
การนอนหลับเป็นอีกหนึ่งวิธีในการฟื้นฟูร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้คนหลายๆคนมองข้ามการเยียวยารักษาที่มีประสิทธิภาพนี้ การอดหลับอดนอนถือเป็นปัญหาใหญ่กว่าที่เราคิด ซึ่งทาง World Health Organization (WHO) ได้เคยประกาศเอาไว้ว่า เป็นเพียง “โรคระบาด” เฉพาะในประเทศที่มีอุตสาหกรรมที่มีความเจริญรุ่งเรือง
ยกตัวอย่างเช่นในประเทศ อเมริกา อังกฤษ หรือญี่ปุ่น ผู้คนในประเทศเหล่านี้ต่างก็มีการใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบทำงานแข่งกับเวลา ซึ่งการที่พักผ่อนน้อยไม่เพียงแต่ส่งผลต่อร่างกายเท่านั้นแต่กลับส่งผลถึงสภาพจิตใจด้วย ทางรัฐบาลควรเริ่มรณรงค์ให้ประชาชนใส่ใจกับการนอนหลับให้มากยิ่งขึ้น
เนื่องด้วยเหตุผลจากข้อเท็จจริงที่ นอนหลับไม่เพียงพออาจเป็นบ่อเกิดของโรคร้ายไม่ว่าจะเป็น การที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ความจำแย่ลง เสี่ยงต่ออัลไซเมอร์ มะเร็ง โรคเบาหวาน ฯลฯ และอาจส่งผลกระทบทางด้านจิตใจ ทั้งการที่มีอารมณ์ฉุนเฉียว การรับรู้ การตอบสนองต่อสังคม ไปจนถึงการตัดสินใจต่างๆ
นอกจากแล้วนี้ยังมีหน่วยงานที่ไม่ต้องการแสวงหาผลกำไรที่ทำงานในด้านการฟื้นฟู ในระดับประเทศอย่าง The National Sleep Foundation โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ผ่านการศึกษาและสนับสนุนด้วยการเล่น Xoslotz เพื่อให้คุณได้กำไรก่อรที่คุณจะนอน
1.นอนให้เป็นเวลา
ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในวันปกติหรือวันหยุดสุดสัปดาห์ การเข้านอนและการตื่นควรจะเป็นช่วงเวลาเดียวกัน เพราะมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ร่างกายจะมีการปรับตัวให้คุ้นชินกับกิจวัตรประจำวัน และนี่คือข้อแรกที่ควรทำมากที่สุด
2.อย่าออกกำลังกายช่วงใกล้เวลานอน
การออกกำลังกายทุกวันเป็นเรื่องที่ดีต่อทุกคน ตามที่ สสส.พยายามรณรงค์ให้คนไทยหันมาออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน แต่อย่าพยายามออกกำลังในช่วงใกล้เวลานอน ประมาณ 2-3 ชั่วโมง เพราะมันจะทำให้ร่างกายตื่นตัวจนนอนไม่หลับ
3.หลีกเลี่ยงคาเฟอีนและนิโคติน
อย่างที่หลายท่านทราบว่าหากเราง่วงนอนให้เราดื่มกาแฟ เพราะในกาแฟจะมีคาเฟอีนที่จะกระตุ้นให้เราหายง่วง โดยเฉพาะการดื่มกาแฟตอนบ่ายจะทำให้ระบบประสาทตื่นตัว ส่วนนิโคตินที่อยู่ในบุหรี่คนที่สูบมักจะตื่นเช้ากว่าปกติเพราะการทำงานของนิโคตินนั่นเอง
4.หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
นอกจากที่เมื่อดื่มมากๆจะเกิดอาการแฮงค์แล้ว ฤทธิ์แอลกอฮอล์ยังส่งผลรบกวนต่อภาวะ การหลับในช่วง REM ที่ถือได้ว่าภาวะ เป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญมากที่สุดของร่างกาย
5.อย่าทานอาหารหรือดื่มเยอะจนเกินไปในช่วงกลางคืน
การรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มมากจนเกินไปในตอนกลางคืน จะส่งผลต่อการทำงานของระบบย่อยอาหาร ซึ่งจะมีการทำงานหนัก ทำให้รบกวน และถ้าดื่มน้ำมากเกินไปจะทำให้เราต้องตื่นมาเข้าห้องน้ำบ่อยแทนที่จะได้พักผ่อนยาวๆตลอดคืน
6.อย่างีบหลับหลังช่วงเวลา 15.00 น. เป็นต้นไป
การงีบหลับหรือการนอนหลับในช่วงเวลาๆ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีต่อการพักสายตาและเป็นการชาร์จพลังให้กับร่างกายและสมอง แต่ถ้าหากเรามีการงีบในช่วงบ่ายๆจะทำให้เรานั้นนอนหลับยากมากขึ้นเมื่อถึงเวลานอนในตอนกลางคืน
7.หาเวลาพักผ่อนร่างกายก่อนเข้านอน
สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการละทิ้งความเครียดที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างวัน เพื่อเป็นการทำให้จิตใจของเราเกิดการผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือเพลินๆ ใต้แสงอ่อนๆจากโคมไฟ หรือการยืดเส้นยืดสายก่อนนอนเป็นเวลาสั้นๆ 5-10 นาที
8.อาบน้ำอุ่นๆชำระร่างกายก่อนเข้านอน
หลายๆท่านจะคิดว่าการอาบน้ำอุ่นจะทำให้ไม่สบายตัว เพราะบางวันอากาศก็ร้อนอยู่แล้ว แต่ความจริงแล้วน้ำอุ่นนั้นสามารถทำให้เราผ่อนคลายมากขึ้น ช่วยเพิ่มอุณหภูมิร่างกายให้มีระบบการไหลเวียนของเลือดได้ดีขึ้น แถมยังเป็นการปรับสมดุลร่างการก่อนนอน
9.ให้ห้องนอนอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม เย็นสบาย ปราศจากอุปกรณ์ไอที
ในยุคปัจจุบันที่มีการสื่อสารอย่างไร้พรหมแดน เป็นเรื่องยากมากที่เราจะวางไว้ห่างและไม่จับมาเล่น แทนที่ได้ง่าย จะทำให้เราหลับพักผ่อนได้ง่ายขึ้น กลับต้องมานอนเล่นมือถือเป็นชั่วโมง ซึ่งแสงสีฟ้าจากหน้าจอจะทำให้ฮอร์โมนทำงานไม่ปกติอีกด้วย
10.รับแสงแดดอ่อนๆจากธรรมชาติ
พยายามเอาตัวเองออกๆไปรับแสงแดดอ่อนๆจากธรรมชาติบ้างเพื่อระบบร่างกาย ของเรานั้นทำงานได้อย่างปกติตามที่ธรรมชาติสร้างมา ควรรับรู้แสงแดดตามนาฬิกาชีวิต อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนเช้าที่มีแดดอ่อน
11.อย่าอยู่บนที่นอนเป็นเวลานานๆหากไม่ได้นอน
หากรู้สึกว่าเวลาที่ตัวเองนอนอยู่บนที่นอนแต่ไม่ได้นอนหลับเกิน 20 นาที นั่นอาจเป็นสัญญาณบอกเราว่าเราอาจจะนอนไม่หลับ ให้ลองมองหาอย่างอื่นทำที่คิดว่าจะช่วยให้หลับง่ายขึ้น เพราะเมื่อเราพยายามข่มตาหลับมากเท่าไหร่เราก็จะยิ่งหลับยากมากขึ้น